Nudent Thailand

ปวดฟันเรื้อรัง กับความเชื่อมโยงของปัญหาที่คุณอาจคาดไม่ถึง Nudent

ปวดฟันเรื้อรังกับฝ้าบนใบหน้า ความเชื่อมโยงที่คุณอาจคาดไม่ถึง

อาการปวดฟัน ไม่เพียงแต่เป็นปัญหาทางสุขภาพช่องปากที่สร้างความเจ็บปวดและรำคาญใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและอาจนำไปสู่ปัญหาผิวพรรณบางอย่างได้อีกด้วย  ความเครียด: ศัตรูตัวร้ายของสุขภาพ ความเครียดเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดันหรืออันตราย แต่หากความเครียดสะสมเป็นเวลานาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอาการปวดฟันเรื้อรัง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเครียดสะสม วงจรปวดฟัน-ความเครียด อาการปวดฟันเรื้อรังทำให้เกิดความเครียด เนื่องจากความเจ็บปวดและความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพช่องปาก ความเครียดที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในปริมาณมาก ฮอร์โมนคอร์ติซอลมีผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทอัตโนมัติ ผลกระทบของความเครียดต่อผิวพรรณ ความเครียดเรื้อรังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ผิวหนังอ่อนแอและไวต่อการระคายเคือง นอกจากนี้ ความเครียดยังกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้าอีกด้วย ฝ้า: ภัยเงียบที่ทำลายความมั่นใจ ฝ้า (Melasma) เป็นภาวะผิวหนังที่มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาลหรือสีเทา มักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก และริมฝีปากบน ฝ้าเป็นปัญหาผิวพรรณที่พบบ่อยในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีผิวคล้ำและผู้หญิงตั้งครรภ์ สาเหตุของฝ้า (Melasma) ฝ้า (Melasma) เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่ พันธุกรรม: หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นฝ้า คุณก็มีแนวโน้มที่จะเป็นฝ้าได้เช่นกัน ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ การใช้ยาคุมกำเนิด หรือการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน อาจกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ แสงแดด: รังสียูวีจากแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฝ้าเข้มขึ้น …

ปวดฟันเรื้อรังกับฝ้าบนใบหน้า ความเชื่อมโยงที่คุณอาจคาดไม่ถึง Read More »

EF LINE

EF LINE “เครื่องมือจัดการความผิดปกติของโครงสร้างฟันในเด็ก

EF LINE – เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อฟันมีปัญหาในการเรียงตัว เราสามารถใช้ EF LINE ซึ่งเป็นเทคนิคในงานทันตกรรมจัดฟันช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้.   ซึ่งในอดีตทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะมีคำแนะนำให้คนไข้เริ่มจัดฟันเมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี โดยคำแนะนำดังกล่าวเหมาะสมกับกรณีที่ เด็กเหล่านั้นไม่มีปัญหาในเรื่องนิสัยผิดปกติ ปัญหาการกลืน และการหายใจ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีผลต่อรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งและการเจริญเติบโตของกระดูกใบหน้าและขากรรไกร นอกจากนี้ในเด็กที่มีพฤติกรรมบางอย่างซึ่งมีผลเสียต่อโครงสร้างใบหน้า เช่น การเลิกขวดนมช้า ดูดนิ้ว กัดเล็บ นั่งท้าวคาง หรือภาวะการหายใจทางปากที่อาจสืบเนื่องมาจากปัญหาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเรื้อรัง ที่พบในกรณีคนไข้ที่มีต่อมอะดินอยด์หรือต่อมทอลซิลโต เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการพัฒนาและการเจริญเติบโตของกระดูกใบหน้าและกระดูกขากรรไกรทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่คุณพบว่าบุตรหลานมีปัญหาดังกล่าว การจะรอเพื่อแก้ไขความผิดปกติด้วยการจัดฟันเมื่ออายุ 12-13 ปีนั้น อาจทำให้โครงสร้างใบหน้าและการเรียงตัวของฟันเกิดปัญหารุนแรง จนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว ในปัจจุบันจากการศึกษาเราพบว่ากล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ดังนั้น จึงมีการออกแบบเครื่องมือเพื่อทำการปรับแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนการหายใจให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือเพื่อช่วยปรับการกลืนให้ถูกต้อง โดยเครื่องมือดังกล่าวมีชี่อเรียกว่า EF line EF line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ช่วยส่งเสริมการปรับรูปของกระดูกโดยเราทราบว่ากระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่างมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องมากน้อยตามแต่ช่วงอายุ ดังนั้น ตามหลักการแล้วหากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้องทำการเริ่มแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่ง EF line สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ …

EF LINE “เครื่องมือจัดการความผิดปกติของโครงสร้างฟันในเด็ก Read More »

Scroll to Top

What are you looking for?

Try to type your keyword on the right