การออกแบบและก่อสร้างคลินิกทันตกรรมนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือการเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม วัสดุที่เลือกควรมีความทนทาน สวยงาม ใช้งานง่าย สะอาด ปลอดภัย และเหมาะกับสภาพอากาศ บทความนี้ นำเสนอ 5 เทคนิคการเลือกวัสดุก่อสร้างสำหรับคลินิกทันตกรรม
1. พื้น
พื้นของคลินิกทันตกรรมควรมีความทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และป้องกันการลื่นไถล วัสดุที่นิยมใช้สำหรับพื้น ได้แก่ กระเบื้องเซรามิก หินแกรนิต หินอ่อน และพื้นไวนิล
กระเบื้องเซรามิก เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีราคาไม่แพง ทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย
กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นวัสดุปูพื้นและผนังที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เหมาะสำหรับใช้ในคลินิกทันตกรรม เพราะมีความทนทาน สวยงาม ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย กันน้ำ และป้องกันปลวก กระเบื้องแกรนิตโต้มีราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับวัสดุปูพื้นบางชนิด
พื้น SPC หรือ Stone Plastic Composite เป็นวัสดุปูพื้นชนิดใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน พื้น SPC มีความทนทาน สวยงาม ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย กันน้ำ และป้องกันปลวก
หินอ่อน มีความสวยงาม หรูหรา และดูแลรักษาง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูง หินอ่อนมีความไวต่อกรด ด่าง และรอยขีดข่วน จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง
พื้นไวนิล หรือกระเบื้องยาง เป็นตัวเลือกที่ประหยัด ทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย พื้นไวนิลนั้นตกแต่งลวดลายบนพื้นได้ง่ายกว่าวัสดุพื้นตัวอื่นๆ
2. ผนัง
ผนังของคลินิกทันตกรรมควรมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย และป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย วัสดุที่นิยมใช้สำหรับผนัง ได้แก่ สีทาผนัง วอลเปเปอร์ กระเบื้องเซรามิก และไม้
สีทาผนัง เป็นตัวเลือกที่ประหยัด ทาสีใหม่ได้ง่าย และมีสีให้เลือกหลากหลาย สีทาผนังบางชนิดอาจมีกลิ่นแรง และอาจไม่ทนทานเท่าวัสดุอื่นๆ
วอลเปเปอร์ มีความสวยงาม มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย และสามารถช่วยพรางตาให้ห้องดูใหญ่ขึ้น วอลเปเปอร์บางชนิดอาจทำความสะอาดยาก และอาจราคาค่อนข้างสูง
กระเบื้องเซรามิก มีความทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย กระเบื้องเซรามิกบางชนิดอาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
ไม้ มีความสวยงาม ดูอบอุ่น และเป็นธรรมชาติ ไม้บางชนิดอาจราคาค่อนข้างสูง และอาจดูแลรักษายาก แต่สามารถยกระดับความหรูหราได้ด้วยการออกแบบดีไซน์เป็นลวดลายต่างๆ
3. ฝ้าเพดาน
ฝ้าเพดานของคลินิกทันตกรรมควรมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย และป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง วัสดุที่นิยมใช้สำหรับฝ้าเพดาน ได้แก่ ฝ้าฉาบเรียบ ฝ้าทีบาร์ และฝ้า PVC
ฝ้าฉาบเรียบ มีความสวยงาม เรียบเนียน และดูแลรักษาง่าย ฝ้าฉาบเรียบอาจแตกร้าวได้ง่าย และอาจทำความสะอาดยาก
ฝ้าทีบาร์ มีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย และสามารถติดตั้งไฟหรืออุปกรณ์อื่นๆ บนฝ้าได้ง่าย ฝ้าทีบาร์อาจดูไม่สวยงามเท่าฝ้าฉาบเรียบ
ฝ้า PVC เป็นตัวเลือกที่ประหยัด ทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และมีสีให้เลือกหลากหลาย ฝ้า PVC อาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
4. ประตู
ประตูจะแบ่งออกเป็น 2 ตำแหน่ง คือ ประตูทางเข้าคลินิก และ ประตูของห้องตรวจแต่ละห้อง
ประตูทางเข้าคลินิก
เป็นประตูด่านแรกก่อนที่คนไข้จะเดินเข้ามาที่เคาเตอร์ด้านใน ตรงส่วนนี้หากเจ้าของคลินิกเน้นเรื่องความปลอดภัยหรือเชื้อโรคจากการสัมผัส ประตูอัตโนมัติ ที่มี Access Control เป็นแบบ Touchless Switch จะตอบโจทย์ตรงนี้มากกว่า เพราะถ้าเป็นประตูอัตโนมัติแบบร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 หากมีการเคลื่อนไหวใกล้บริเวณเซนเซอร์แล้วประตูต้องเปิดทุกครั้ง แบบนี้จะเสียทั้งพลังงานมากกว่าปกติ เพราะมีการเปิดรับอุณหภูมิข้างนอกที่สูงกว่าเข้ามาในคลินิกที่แอร์กำลังเย็นฉ่ำๆ อยู่บ่อยครั้งเกินไป ไหนจะปัญหาเรื่องของฝุ่น PM2.5 ภายนอกอีก
ประตูห้องตรวจ
ประตูของห้องตรวจในคลินิกทันตกรรมควรมีความทนทาน สวยงาม ใช้งานง่าย และป้องกันเสียงรบกวน วัสดุที่นิยมใช้สำหรับประตู ได้แก่ ไม้ เหล็ก และอลูมิเนียม
ไม้ มีความสวยงาม ดูอบอุ่น และเป็นธรรมชาติ ไม้บางชนิดอาจราคาค่อนข้างสูง และอาจดูแลรักษายาก
เหล็ก มีความทนทาน แข็งแรง และราคาไม่แพง เหล็กอาจเกิดสนิมได้ง่าย และอาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
อลูมิเนียม มีความทนทาน น้ำหนักเบา กันสนิม และทำความสะอาดง่าย อลูมิเนียมบางชนิดอาจราคาค่อนข้างสูง และอาจดูไม่สวยงามเท่าไม้
หากคลินิกที่มีห้องที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษในระดับเดียวกับห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล ก็ควรเลือกเป็นประตูสุญญากาศ (Hermetic Door) ที่ใช้สำหรับห้องผ่าตัด
5. เคาน์เตอร์
เคาน์เตอร์เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญในคลินิกทันตกรรม เป็นจุดแรกที่คนไข้ต้องเดินเข้ามาติดต่อและจะเป็นจุดเด่นชัดที่สุด เคาน์เตอร์ที่ดีควรมีความทนทาน สวยงาม ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย และเหมาะกับสไตล์การตกแต่งของคลินิก
วัสดุที่นิยมใช้ทำเคาน์เตอร์สำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่
หินแกรนิต: หินแกรนิตมีความทนทาน สวยงาม หรูหรา และทำความสะอาดง่าย หินแกรนิตมีหลายสีให้เลือก แต่มีราคาค่อนข้างสูง
หินอ่อน: หินอ่อนมีความสวยงาม หรูหรา ดูแลรักษาง่าย แต่มีราคาค่อนข้างสูง หินอ่อนมีความไวต่อกรด ด่าง และรอยขีดข่วน
ไม้: ไม้มีความสวยงาม มีโทนสีที่ดูอบอุ่น และเป็นธรรมชาติ ไม้บางชนิดอาจราคาค่อนข้างสูง แต่การใช้ไม้ในการออกแบบพร้อมกับใส่ไฟออกหลังลวดลายด้วย จะทำให้ดูหรูขึ้นไปอีก
กระเบื้องเซรามิก: กระเบื้องเซรามิกมีความทนทาน กันน้ำ ทำความสะอาดง่าย และมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย กระเบื้องเซรามิกบางชนิดอาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
เหล็ก: เหล็กมีความทนทาน แข็งแรง ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับใช้โครงสร้าง คาน เสา และหลังคา ที่นิยมใช้เป็นโครงสร้างก็คือ เหล็กกล่อง มีทั้งเหล็กท่อเหลี่ยม, เหล็กกล่องแบน และเหล็กฉาก
อะคริลิก: อะคริลิกเป็นวัสดุสังเคราะห์ มีความทนทาน น้ำหนักเบา ทำความสะอาดง่าย และมีสีให้เลือกหลากหลาย อะคริลิกอาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
Corian: Corian เป็นวัสดุสังเคราะห์ มีความทนทาน ไร้รอยต่อ ทำความสะอาดง่าย และมีสีให้เลือกหลากหลาย Corian มีราคาค่อนข้างสูง
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกวัสดุทำเคาน์เตอร์
งบประมาณ: วัสดุแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกัน ควรเลือกวัสดุที่เหมาะกับงบประมาณ
สไตล์การตกแต่ง: ควรเลือกวัสดุที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งของคลินิก
การใช้งาน: ควรเลือกวัสดุที่ทนทาน ใช้งานง่าย และทำความสะอาดง่าย
ความสวยงาม: ควรเลือกวัสดุที่มีความสวยงาม ดูดี และน่าประทับใจ
6. เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์ในคลินิกทันตกรรมไม่เพียงแต่มีบทบาทในการใช้งาน แต่ยังส่งผลต่อบรรยากาศและความสะดวกสบายของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ประเภทของเฟอร์นิเจอร์ที่ควรมีในคลินิกทันตกรรม:
เก้าอี้ทันตกรรม:
- เป็นหัวใจหลักของห้องตรวจ ควรเลือกรุ่นที่ปรับระดับได้สะดวกสบาย ทั้งสำหรับผู้ป่วยและทันตแพทย์
- ควรมีระบบที่รองรับการใช้งานทางทันตกรรมที่หลากหลาย เช่น การดูดน้ำลาย การปรับแสงไฟ
เก้าอี้รอตรวจ:
- ควรมีจำนวนเพียงพอ และจัดวางในบริเวณที่สะดวกสบายเลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย และทนทานต่อการใช้งาน
ตู้เก็บอุปกรณ์:
- ควรมีทั้งแบบเปิดและแบบปิด เพื่อจัดเก็บอุปกรณ์และเวชภัณฑ์อย่างเป็นระเบียบ
- เลือกวัสดุที่ทนทานต่อความชื้น และทำความสะอาดง่าย เช่น สแตนเลส หรือเมลามีน
โต๊ะทำงาน:
- ควรมีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
- เลือกวัสดุที่ทนทานต่อการขีดข่วน และทำความสะอาดง่าย
ไฟส่องสว่าง:
- ไฟส่องสว่างในห้องตรวจควรมีแสงที่เพียงพอและไม่ทำให้เกิดเงา
- ไฟในบริเวณที่นั่งรอ ควรสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เครื่องปรับอากาศ:
- ควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่มีระบบกรองอากาศ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีภายในคลินิก
ปัจจัยในการเลือกเฟอร์นิเจอร์:
- ความสะดวกสบาย: เฟอร์นิเจอร์ควรออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระของผู้ใช้งาน และช่วยลดความเมื่อยล้า
- ความสะอาดและปลอดภัย: เลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย และป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
- ความทนทาน: เฟอร์นิเจอร์ควรมีความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
- สไตล์การตกแต่ง: เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวมของคลินิก
- งบประมาณ: กำหนดงบประมาณให้ชัดเจน และเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่คุ้มค่ากับราคา
เทคนิคเพิ่มเติม
- เลือกวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเหมาะกับสภาพอากาศ
- เลือกวัสดุก่อสร้างที่มีสีสันและลวดลายที่กลมกลืนกัน ช่วยให้คลินิกดูสวยงาม น่าดึงดูด
- เลือกวัสดุก่อสร้างที่ทำความสะอาดง่าย ป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย และฝุ่นละออง
- เลือกวัสดุก่อสร้างที่ประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
- ปรึกษาวิศวกร สถาปนิก หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมกับคลินิกของคุณ
ตัวอย่างวัสดุก่อสร้างสำหรับคลินิกทันตกรรม
- อิฐมอญ มีความทนทาน แข็งแรง กันความร้อน และดูดซับเสียงได้ดี เหมาะสำหรับใช้ก่อผนัง ที่นิยมใช้ก่อผนังคือ อิฐมอญ 3 รู และ อิฐมอญ มอก.
- อิฐมวลเบา น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย กันความร้อน และประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับใช้ก่อผนัง ที่นิยมใช้คือ อิฐมวลเบา 7.5 ซม และ อิฐมวลเบาหนา 10 ซม.
- เหล็ก มีความทนทาน แข็งแรง ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับใช้โครงสร้าง คาน เสา และหลังคา
สรุป
การเลือกวัสดุก่อสร้างสำหรับคลินิกทันตกรรมนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความทนทาน ความสวยงาม การใช้งาน ความสะอาด ความปลอดภัย และสภาพอากาศ บทความนี้ นำเสนอ 5 เทคนิคการเลือกวัสดุก่อสร้าง และตัวอย่างวัสดุก่อสร้างที่นิยมใช้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนก่อสร้างหรือปรับปรุงคลินิกทันตกรรม
สนใจซื้ออุปกรณ์หรือสินค้าทันตกรรมในราคาพิเศษ สำหรับ Set เปิดคลินิกใหม่ สามารถติดต่อผู้แทนขายในเขตของท่านได้