บทบาทของ AI ในวงการทันตกรรม

หากพูดถึงสิ่งของ ทรัพย์สิน หรือสิ่งต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา  สิ่งเหล่านี้จะสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้ได้มากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับการนำสิ่งๆ นั้นมาใช้อย่างไรให้ถูกวิธีและเกิดประโยชน์สูงสุด ในปัจจุบันนี้มีนวัตกรรมที่ถูกเรียกว่า “AI” หรือปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นดังเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์และเครื่องจักรสามารถเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ กำลังเป็นที่นิยมกล่าวถึงกันในวงกว้าง เนื่องจากปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถเชื่อมโยงกับหลากหลายชีวิต หลากหลายอาชีพ รวมไปถึงในวงการวิชาการ แต่มีเสียงแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยในเรื่องของข้อดีและข้อจำกัดของการใช้เครื่องมือนี้

บทความนี้จะเป็นการเขียนถึงบทบาทของ AI กับวงการทันตกรรม โดยหลักการทำงานเบื้องต้นของ AI ได้แก่  รวบรวมข้อมูล  ประมวลผลข้อมูล เรียนรู้และพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เป็นระบบแนะนำคอนเทนต์ สร้างความบันเทิงด้วยการแนะนำหนังหรือวิดีโอที่น่าสนใจ เป็นเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าใช้เพื่อปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์หรือยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมทางการเงิน ระบบนำทาง และเป็นแชทบอท เป็นต้น

เมื่อนำ AI มาใช้กับงานทันตกรรมนั้น กล่าวได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของวงการทันตกรรม ด้วยการที่ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยและแนะนำการรักษาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ AI ยังช่วยพัฒนาระบบการถ่ายภาพทางทันตกรรม ประกันทันตกรรม และการศึกษาทางทันตกรรม ทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่การมีเคสจากผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถทำงานได้มากขึ้น AI ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดเวลาในการทำงาน และค่าใช้จ่ายบางอย่างได้อีกด้วย อาทิ AI มีระบบตรวจจับฟันผุ  โรคปริทันต์ และปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ การถ่ายภาพด้วย AI ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการวินิจฉัย ลดความผิดพลาด และปรับปรุงผลลัพธ์การรักษา

คลินิกทันตกรรมหลายแห่งทั่วโลกได้มีการลองใช้งาน AI มากขึ้น ในเรื่องของงานธุรการ การนัดหมาย การเรียกเก็บเงิน และการจัดการข้อมูล โดยมี Big Data ที่ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมสามารถปรับแต่งการรักษาตามลักษณะเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละราย และช่วยคาดการณ์ปัญหาทางทันตกรรมก่อนที่จะลุกลามรุนแรง เพื่อเตรียมวางแผนการรักษาและปรับแผนการรักษา และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย  สำหรับในประเทศไทยนั้น ได้เริ่มมีการพูดถึง AI และแนวทางการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในวงการทันตกรรม และสาขาอาชีพอื่นๆ มากขึ้น ทำให้มีบุคลากรจากหลากหลายแห่ง เริ่มหันมามองและหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์นี้เพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคตได้อย่างเหมาะสมต่อไป ตัวอย่างเช่น การพัฒนาระบบตรวจจับฟันผุด้วย AI ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่พบว่าอัตราการเกิดโรคในช่องปากยังคงสูงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จึงได้ทำการพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีชื่อเรียกว่า “รักยิ้ม”

อย่างไรก็ตามการใช้ AI ในวงการทันตกรรมจะไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าไม่คำนึงถึงวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสม ฉะนั้นแล้ว AI ไม่ใช่ทั้งผู้ควบคุม หรือสิ่งทดแทนบุคลากรทางทันตกรรม ความสำคัญของการใช้ AI ยังคงเป็นผู้ใช้งานที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเชี่ยวชาญ และเรียนรู้วิธีควบคุม ใช้งานปัญญาประดิษฐ์นี้ ให้สามารถมาช่วยงานของเราให้มีความราบรื่น มีประสิทธิผลตรงตามเป้าหมาย กล่าวคือ “AI เป็นเครื่องมือรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช้สิ่งทดแทนหรือควบคุมผู้ใช้งาน” เราต่างหากที่เป็นผู้ควบคุมที่แท้จริง ว่าจะใช้เครื่องมือที่เป็นปัญญาประดิษฐ์นี้ไปในทิศทางใด บทความต่อไปจะเป็นการนำเสนอเรื่องของระบบ AI กับผู้ช่วยทางทันตกรรม มาติดตามนะคะ

ที่มา:      The Most Important Dental Trends for 2025
https://www.overjet.com/blog/the-most-important-dental-trends-for-2025?utm_source=chatgpt.com

แอปพลิเคชันรักยิ้ม: นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสุขภาพช่องปากที่ทุกคนเข้าถึงได้. https://dental.anamai.moph.go.th/web-

upload/5x9c01a3d6e5539cf478715290ac946bee/202503/m_page/39738/2505/file_download/7c349550b96d5ac42fba1

dab39f94cbb.pdf

บทความโดย N&N

Like this article?

Scroll to Top

What are you looking for?

Try to type your keyword on the right